สัตวแพทย์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่คนเลี้ยงสัตว์มักจะพูดถึงมากที่สุดเมื่อเป็นเรื่องของสัตว์เลี้ยง เพราะไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยเล็กน้อย อุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บ ตรวจสุขภาพประจำปี หรือแม้แต่ตัดเล็บเช็ดหู หลาย ๆ อย่างก็ต้องผ่านมือคุณหมอสัตวแพทย์ทั้งนั้น (ถึงบางอย่างเราจะทำเองได้ก็เถอะ…) ไหนจะการขอคำปรึกษาใด ๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของเราที่ไม่แน่ใจว่าจะหาคำตอบที่ถูกต้องได้จากที่ไหน ก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างสัตวแพทย์นี่แหละที่จะคอยให้คำตอบ!

วันนี้ MyFriend พาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับอาชีพนี้ให้มากขึ้น กับคุณนิว สัตวแพทย์ตัวจริงที่จะมาเล่าถึงแรงบันดาลใจและประสบการณ์ตั้งแต่สมัยเรียนจนเปิดคลินิกของตนเองให้ทุกคนได้ฟังกัน!

แนะนำตัว

พี่จบสัตวแพทย์มา 2 ปีแล้วนะคะ เป็นสัตวแพทย์ พุทธชาติ สุทัศนทรวง ตอนนี้ก็เพิ่งเปิดคลินิกของตัวเองที่จังหวัดสุพรรณบุรีนะคะ ชื่อคลินิกบ้านรักษ์สัตว์ค่ะ

แรงบันดาลใจในการเป็นสัตวแพทย์

ถามว่าจริง ๆ อยากเป็นสัตวแพทย์ตั้งแต่เด็ก ๆ มั้ย อาจจะไม่ใช่ แต่ว่าเรามีความผูกพันเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ๆ คือ (สมัย) เด็ก ๆ บ้านพี่อ่ะ อยากเลี้ยงสัตว์ เหมือนก็เคยเลี้ยงนะ เลี้ยงปลา เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์อะไรอย่างนี้ แต่ไม่เคยเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวเลย จนตอนถึงมัธยม พี่มีเพื่อนที่สนิทกันเขาชอบเล่นแมวมาก หลังจากนั้นได้รับอิทธิพลจากเพื่อนมาค่อนข้างเยอะ ก็เลยสนใจที่อยากเลี้ยงแมวจริง ๆ จัง ๆ เลยขอที่บ้านว่าขอเลี้ยงแมวได้มั้ย สุดท้ายก็คือที่บ้านก็ให้แหละ

ตอนแรกก็เลี้ยงแค่ตัวเดียว สักพักก็เหมือนมาตัวที่ 2 ตัวที่ 2 ไม่พอ ก็คือแมวงอกจ้า เป็น 3 4 5 6 7 8 เพิ่มมาจนแบบ 8 ตัว ทั้งหมด 8 ตัว หลังจากนั้นก็เลยทำหมันเนอะ พอเราเลี้ยงมันไปสักพัก สัก 2-3 ปี อย่างนี้ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเราอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คือเวลาถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาเราก็อยากช่วยเขาได้ เพราะว่าระหว่างที่เราเลี้ยง มันก็จะมีเหมือนกัน บางจังหวะที่แมวเราไม่สบาย แมวเราป่วย ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเราได้ทำอาชีพในอนาคตของเราเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก็คงดีเหมือนกัน อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเขาด้วย ทั้งเรื่องพฤติกรรม ทั้งอาหารการกินอะไรอย่างนี้ เพราะว่าจริง ๆ เหมือน ตอนนั้นอ่ะ บางช่วงเวลาของเรามันเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากเนอะ ด้วยแบบว่าความเจ็บปวดทางจิตใจอะไรอย่างนี้ บางทีเรารู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนเราคนหนึ่งเหมือนกัน เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเลย

สิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาชีพสัตวแพทย์

ก็อาจจะมี เช่น บางคนก็ไม่รู้ว่าเราเรียน 6 ปี เหมือนหมอ เหมือนเภสัช เหมือนทันตะ คือเราเรียนมา 6 ปีก็จริง แต่ว่าการที่เรียน 6 ปี ถามว่าเรียนรู้สัตว์ทุกชนิดมั้ย เราก็อาจจะเรียน แต่ว่าไม่ได้ทั้งหมดเนอะ เราเรียนกว้าง ๆ ไป แล้วบางทีเราก็จำกัดเหลือแค่แบบสัตว์เล็กหรือว่าสัตว์ใหญ่อะไรอย่างนี้ อย่างเราก็จะเรียนสัตว์เล็กเนอะ จะเน้นไปที่หมาแมวเป็นหลัก ส่วนกระต่ายก็อาจจะแบบต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมเอาเอง ก็มีสอนบ้างแต่ก็ไม่ได้ลงลึกเท่าไหร่ จบมาคนชอบเข้าใจว่าต้องรักษาได้ทุกอย่าง

เคสที่ประทับใจมาก ๆ

มีเคสที่ประทับใจเยอะมาก ๆ เลย แต่ว่าเอาที่เราประทับใจมากจริง ๆ ก็คือตั้งแต่เราทำงานใหม่ ๆ ค่ะ ตอนที่เราไปฝึกงาน ตอนเริ่มทำงานหลังเรียนจบ เราก็เหมือนได้ไปสาขาใหญ่ของที่ทำงานเก่า มีเคสแรกที่เราเจอ มันเป็นเคสที่คลอดลูกตอนเช้า ไปถึงก็เข้าห้องผ่าตัดเลยกับพี่หมอ ก็ไปช่วยเขาคลอด

แล้วเคสนั้นอ่ะ มันเป็นสุนัขคลอดลูก เหมือนจะผ่าคลอดด้วยแหละ แล้วก็ช่วยชีวิตออกมาแล้วก็เหมือนรับช่วงต่อโดยการดูดเสมหะออกมา หรือว่าบางทีก็ช่วยให้ความอบอุ่นให้เขามีชีวิตรอดขึ้นมาได้เนอะ มันก็เลยแบบรู้สึกว่าประทับใจตรงนี้

แล้วก็มันมีตัวหนึ่งของเคสนั้นค่ะ มันมีลูกตัวหนึ่งไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แล้วก็แบบพยายามจนสุดท้ายมันก็รอดอะไรอย่างนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าเราประทับใจจนทุกวันนี้เลย ผ่านมา 2 ปีแล้วเหมือนกัน

แล้วก็ล่าสุด เราเพิ่งเปิดคลินิกมาได้ประมาณเดือนหนึ่งเนอะ เหมือนมีเคสที่มาอัลตร้าซาวด์ท้องกับที่คลินิกเราอะไรอย่างนี้ เราก็เลยเหมือนแบบคอยติดตามเขาว่า ท้องแมวเป็นยังไงแล้วบ้างจนถึงวันที่เขาคลอด

เราค่อนข้างสนิทกับเจ้าของเขาเองด้วยอ่ะ ก็เลยขอไปช่วยคลอดลูกเขาที่บ้านอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของชีวิตเนอะ

อันนี้ก็เป็นอีกแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เรามาเรียนสัตวแพทย์ด้วย เหมือนแมวที่บ้านเราก็คลอดลูก แต่ว่าเราเสียดายมากที่ไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่ในจังหวะที่เขาได้คลอดพอดี ตอนนั้นน่าจะต้องติดเรียนที่กรุงเทพเลยไม่ได้อยู่ตอนน้องคลอด แต่ว่าเราก็ได้เลี้ยงตอนเขาเด็ก ๆ เหมือนกัน จริง ๆ เขาอาจจะสามารถคลอดของเขาได้ แต่ว่าด้วยความที่เงื่อนไขของแต่ละตัวไม่เหมือนกัน บางตัวก็อาจจะคลอดยากหรือว่าคลอดไม่ออกได้อะไรอย่างนี้ มันก็จะมีเรื่องวิชาการเกี่ยวกับสัตวแพทย์นี่แหละ ที่จะมาช่วยเสริมตรงนี้ได้

การเป็นสัตวแพทย์เติมเต็มตัวเรายังไง

ด้วยความที่เราเลี้ยงแมวมาเป็น 10 ปีแล้วเนอะ ตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยแล้วก็มาจนถึงปัจจุบันนี้ เราก็รู้สึกว่าเราได้ทำงานกับสิ่งที่เราชอบจริง ๆ ตอนเรียนอาจจะมีบางอย่างที่ก็อาจจะไม่ใช่ไปทั้งหมด แต่ว่าพอจบมาทำงาน เราก็เลือกที่จะทำเกี่ยวกับสัตว์เล็กไปเลย ก็คือเกี่ยวกับสุนัขกับแมวสองชนิดนี้เนอะ รู้สึกว่ามันค่อย ๆ เหมือนเราค่อย ๆ โตไปพร้อมกันอ่ะ

เหมือนเราก็จะได้เรียนรู้ทั้งเจ้าของ ทั้งสัตว์เลี้ยงเองอ่ะ ที่แต่ละตัวมันมีความไม่เหมือนกันนะ แล้วก็ลักษณะการเลี้ยงของเจ้าของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน อันนี้คือเราก็ไม่ได้จบด้านพฤติกรรมหรืออะไรมาโดยตรงเนอะ แต่ว่าเหมือนเราค่อย ๆ เรียนรู้จากเขาได้ จากสิ่งที่เจ้าของเขาเลี้ยงดู ถ้าเขามีความใส่ใจมาก ๆ เวลาเขาป่วยมาอย่างนี้ เขาก็จะเหมือนจับอาการของสัตว์ได้เร็ว ว่าแบบเขาดูเปลี่ยนไปนะ เขาดูซึม เขาดูไม่สบายนะ

แต่ว่าเทียบกับเจ้าของที่เหมือนอาจจะไม่ได้มีเวลามากพอที่จะเลี้ยงดูเขาอย่างนี้ มันก็จะต่างกันเนอะ เวลาเราซักประวัติ ทำการรักษาต่าง ๆ คนที่มีเวลาใส่ใจดูแลเขาอ่ะ จะตอบคำถามตรงนี้ของเราได้มากกว่า

ในช่วงตั้งแต่ทำงานมา 2 ปีนี้อ่ะ ก็จะมีบางช่วงเหมือนกันที่แบบท้อมาก เคสนี้ยากจังเลย หรือว่าอะไรอย่างนี้ เราก็จะพยายามไปหาคำตอบแหละ แต่ว่าสุดท้ายแล้ว เราเรียนมาทางนี้ก็อยากได้ช่วยเหลือชีวิตเนอะ ชีวิตของสัตว์ทุกชนิดก็เหมือนคนเราอ่ะ มันก็มีค่าเหมือนกัน

เรารู้สึกว่ามันก็เหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของเรา แมวเขาก็เหมือนแมวเราเนอะ เวลามีสัตว์ป่วย บางทีเราก็นึกว่าถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้านเรา เราจะดูแลเขายังไง จะรักษาเขายังไงดี อะไรอย่างนี้ พอเขามารักษากับเราใช่มั้ย แล้วแบบสุดท้ายแล้วคือมันหายอะไรอย่างนี้ เราก็รู้สึกว่าเราโล่งใจด้วย แล้วก็ดีใจที่เราทำได้สำเร็จอะไรอย่างนี้ มันเป็นการฮีลใจของเราเอง แล้วก็เจ้าของด้วย เพราะเราก็อยู่ในฐานะที่แบบเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงเหมือนกันเนอะ

คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะเลี้ยงสัตว์

อย่างที่บอกนะคะว่า การดูแลสัตว์เลี้ยงของเราก็เหมือนการดูแลคนคนหนึ่งในครอบครัว น้องเขาก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เนอะ เลยอยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังอยากเลี้ยงน้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยง การดูแล แล้วก็พวกอาหาร หรือว่าเวลาเขาเจ็บป่วยอย่างนี้ค่ะ เพื่อจะได้พร้อมที่จะดูแลเขาตรงนี้ด้วยเนอะ

อยากให้ศึกษาข้อมูลทั้งหมดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจในการเลี้ยงเนอะ เพราะการที่เราตัดสินใจที่จะเลี้ยงเขาแล้วค่ะ มันก็เหมือนเป็นการดูแลคนคนหนึ่งในครอบครัวแล้วก็อยู่กันไปยาว ๆ มันไม่ใช่แค่แบบปีสองปีอ่ะ บางทีอายุขัยเขาประมาณ 20-30 ปีก็มีเนอะ  ถ้าดูแลดี ๆ มันก็สามารถอยู่ได้ยาวมากขึ้นด้วยเนอะ เลยอยากให้เจ้าของมือใหม่ใส่ใจตรงนี้ด้วย

ฝากคลินิกหน่อยค่ะ

ตอนนี้คลินิกเพิ่งเปิดได้มาประมาณ 1 เดือน  ชื่อคลินิกบ้านรักษ์สัตว์นะคะ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี คลินิกเราก็จะมีรักษา ตรวจรักษาเบื้องต้นเนอะ แล้วก็มีเครื่องอัลตร้าซาวด์ แล้วก็มีบริการนอกสถานที่ด้วยนะคะ แล้วก็อนาคตก็จะมีรับผ่าตัดทำหมันด้วยนะคะ มีเพจ Facebook ค่ะ ชื่อคลินิกบ้านรักษ์สัตว์ สองพี่น้องค่ะ

MyFriend ขอขอบคุณคุณนิว (หรือพี่นิวของพวกเรา) ที่แวะเวียนมาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ รวมถึงให้ข้อมูลเบื้องหลังของอาชีพสัตวแพทย์ที่หลายคนไม่เคยรู้! หากเพื่อน ๆ คนไหนที่อยู่ใกล้อำเถอสองพี่น้อง สามารถพาเจ้าน้องสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอสัตวแพทย์ได้นะ!

สัปดาห์หน้า MyFriend จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับใคร อย่าลืมมาติดตามกัน!

💙 Meet MyFriends! พาทุกคนไปทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ เจ้าของธุรกิจสัตว์เลี้ยง และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายที่พร้อมมาแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้กับชาวเพ็ทเลิฟเวอร์แบบหมดเปลือก!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!