ร้านอาหารยามค่ำคืนที่มาพร้อมกับแสงสีและเสียงเพลงดังก้อง อาจไม่ใช่พื้นที่ที่ใครหลาย ๆ คนคาดหวังให้เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง หรือ Pet-friendly สักเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุผลหลักว่าสภาพแวดล้อมอาจจะไม่เอื้ออำนวยให้กับเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ไวต่อสิ่งเร้ารอบข้าง แต่สำหรับหลาย ๆ คนที่มีเจ้าน้องใจนิ่ง ผ่านการฝึกมาอย่างดี ชื่นชอบการออกจากบ้านกับมนุษย์คนโปรด และไม่หวั่นไหวกับความเป็นไปที่แสนวุ่นวาย การมานั่งเป็นเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ขณะสังสรรค์เข้าสังคมก็เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่เบาสำหรับทุกคน

ที่ Brewave ร้านอาหารที่ตั้งใจให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงมาสังสรรค์พร้อมหน้าพร้อมตา มองเห็นว่ามีคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงหลายคนที่อยากพาเจ้าน้องมาร่วมสังสรรค์ด้วย (แม้จะกินข้าวมนุษย์ไม่ได้ก็ตาม) ทำให้เกิดเป็นนโยบายของร้านที่ต้อนรับทุกสิ่งมีชีวิต! วันนี้ MyFriend จะพาทุกคนมาพูดคุยกับคุณไว ผู้จัดการร้าน Brewave ที่มาแบ่งปันแง่คิดดี ๆ ในการทำธุรกิจที่ให้ความใส่ใจและมีการปรับตัวไปตามพฤติกรรมของลูกค้าอย่างแท้จริง!

แนะนำตัวและร้าน

สวัสดีครับ ผมไวครับ เป็นผู้จัดการร้าน Brewave ครับ คอนเซปต์ของร้านคือ จริง ๆ เป็นร้านอาหารที่ตั้งใจให้กลุ่มครอบครัวมารับประทานอาหารเที่ยง อาหารเย็นกัน หรือว่าเป็นกลุ่มเพื่อนที่มานัดสังสรรค์ ซึ่งเราจะมีทั้งอาหารไทย จีน แล้วก็อาหารยุโรป ต้องแจ้งว่าอาหารเราค่อนข้างจะเข้มข้นหน่อย ค่อนข้างจะสตรอง อย่างอาหารยุโรปจะไม่ใช่ยุโรปทั่ว ๆ ไป จะมีความเข้มข้น ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น

เมนูแนะนำ

เมนูแนะนำต้องปีกไก่ Brewing ครับ เพราะว่าเป็นสูตรของร้านและก็เป็นซอสฮันนี่มัสตาร์ด ซึ่งทุกคนมาก็จะติดใจ ลูกค้าประจำจะรู้เลยว่าต้องเป็นปีกไก่กับเครื่องดื่มที่เป็นของทางร้าน หรือว่าเป็นของที่นำเข้าจากต่างประเทศอะไรแบบนี้ฮะ

เจ้าของร้านคิดสูตรเอง

ใช่ครับ ของร้านทางเจ้าของเองเขาเป็นคนสร้างสูตรขึ้นมา ทั้งสูตรของการหมักไก่แล้วก็สูตรซอส ทุกเมนู ใช้คำว่าทุกเมนูครับ ทุกเมนูเจ้าของเนี่ยเป็นคนสร้างเมนูขึ้นมา คิดสูตรเอง ส่วนผสมเองทั้งหมด เป็นของแบรนด์ Brewave เองหมดเลยครับ

คอมมูนิตี้ในร้านอาหาร

เราต้องการให้กลุ่มเพื่อน กลุ่มครอบครัวมารับประทานอาหารกันได้ครับ แต่ทีนี้สิ่งที่เราเจอคือ พอเวลาคนมามันก็จะมีกลุ่มเพื่อน เป็นกลุ่มที่เป็นสายปาร์ตี้ หรือว่าจะเป็นนักดื่มหรืออะไรก็แล้วแต่ เราพยายามใช้คำว่าปรับบรรยากาศของร้านอาหารให้ดูมีความเป็นสถานที่สนุกสนาน มีความปาร์ตี้ มีความสนุกมากขึ้น มีการพยายามปรับแสงสีที่มันอาจจะดูมืดลง มีเรื่องของไฟมีเรื่องของดนตรีสดหรืออะไรนี้ แต่ว่าก็ยังเป็นร้านอาหารที่มาแล้วได้ปาร์ตี้ มีอาหารอร่อยครบถ้วน

นอกจากที่เป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน กลุ่มปาร์ตี้อะไรอย่างนี้ครับ ณ ปัจจุบัน สิ่งที่เราเจอก็คือลูกค้าโทรมาสอบถาม ลูกค้าถามมาทางอินบ็อกซ์เพจว่า สามารถพาน้องหมาน้องแมวเข้ามาได้มั้ย ซึ่งที่เราเจอมาก็คือเราอนุญาตให้พาเข้ามาครับ

แล้วก็เคสนึงที่เราเคยเจอคือ ลูกค้าเขาอยากมาทานอาหารเย็นอะไรอย่างนี้ แล้วเขาพาน้องหมามาสองตัว แต่ทีนี้ เราไปเจอมาว่า เขาเอาน้องหมาไว้บนรถสองตัวเลย เขาไม่กล้าพาเข้าร้าน พอคุยกันแล้วก็เลยให้อนุญาต

เราก็เลยเหมือนมีกฎกันนิดนึงว่า อยากให้พาน้องไว้ในรถเข็น ไม่ให้น้องเดินเพ่นพ่านอะไรแบบนี้ อาจจะไว้ข้างตัวก็ได้ ข้างโต๊ะก็ได้ หรือว่าอยู่ในรถเข็นอะไรแบบนี้ ซึ่งพอช่วงดึก ๆ หน่อย อาจจะมีเรื่องของเสียงปาร์ตี้อะไรแบบนี้ แต่ว่าอันนั้นไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะอย่างร้านเราไม่ว่าจะเป็นสาขาที่กาญจนาภิเษก-บางแค สาขาที่ราชพฤกษ์ มันจะมีโซนที่อยู่ตรงกับเวทีเองเลย ตรงนั้นจะมีเสียงระดับนึง น้องอาจจะตกใจหน่อย แต่ก็จะมีโซนที่มันขยับออกไปข้าง ๆ หน่อย เรื่องเสียงมันก็จะเบาลงหน่อยอะไรแบบนี้ แล้วก็รวมไปถึงลูกค้าที่พาลูกมา เป็นแบบทารกเลย อาจจะอยากแวะมาทานข้าว มาจิบเครื่องดื่มอะไรหน่อย ก็พามาได้ครับ มีโซนที่เสียงปลอดภัยที่มันจะเงียบลงหน่อย ไม่เป็นมลภาวะทางเสียงครับ

ทำไมตัดสินใจเปิดเป็น Pet-friendly

สิ่งที่ทำให้ทางร้านเปิดใจในเรื่องของเพ็ทเฟรนด์ลี่ เพราะว่าการบริหาร เราปรับตัวกันหน้างาน ซึ่งแต่ละวันแต่ละสัปดาห์แต่ละเดือน แต่ละควอเตอร์อ่ะ เราจะเจอเคสตลอด แล้วมันเหมือนกลายเป็นว่า ลูกค้าเขาอยากมาทานข้าวนะ เย็นเขาอาจอยากมากินมื้อค่ำ แต่ว่าเขาติดที่มีน้องอยู่แล้วแบบไม่อยากทิ้งน้อง หรือบางทีออกไปข้างนอก อยากพาน้องมาด้วย

จริง ๆ ใช้คำว่าเริ่มต้นมาจากพฤติกรรมลูกค้ามากกว่า ลูกค้าสอบถาม เราก็เห็นโอกาสว่าแบบ เฮ้ย จริง ๆ เราก็ยินดีรับ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับร้าน เราก็เลยอนุญาต แต่พอตั้งแต่เปิดมา เราก็เลยมีการตั้งกฎกันหน่อย เพราะว่าบางทีลูกค้าอาจจะปล่อยน้องเดินเลย เราก็เลยแค่ให้น้องอยู่ในรถ แต่อนุญาตให้พาเข้ามา เพราะสมัยนี้น้องหมาน้องแมวเขาเหมือนคนในครอบครัวเนอะ เหมือนเป็นลูก เป็นน้อง อะไรอย่างนี้ฮะ

หลังจากที่อนุญาตให้พาน้องหมาน้องแมวเข้ามา ผมมองว่ามีพาสัตว์เลี้ยงมาเฉลี่ยก็สักสัปดาห์ละ 1-2 ท่าน โดยประมาณนะ ถ้ามองเป็นเดือนก็ 5-6 ท่าน ก็มีจำนวนอยู่ประมาณนึงนะ เพราะว่าส่วนใหญ่ที่พามาก็จะมีลูกค้าประจำเราฮะ แล้วก็จะมีลูกค้าใหม่ ๆ ซึ่งลูกค้าใหม่ ๆ เขาก็เห็นจากทางสื่อนี่แหละ สื่อในช่องทางต่าง ๆ ที่แบบ เฮ้ย ร้านนี้พาน้องหมาน้องแมวเข้าได้นะ อะไรแบบนี้ครับ

แค่ให้น้องอยู่ในรถเข็น แล้วก็ถ้าเป็นจองเข้ามาหรือจะเข้ามาเลยก็แล้วแต่ฮะ แจ้งไว้นิดนึงฮะ แล้วก็เรื่องความสะอาด ถ้าน้องเกิดปวดท้องหรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะมีจุดบริเวณรอบ ๆ ร้าน หน้าร้าน แต่ว่าขอความร่วมมือคือช่วยรักษาความสะอาด หรือเก็บกวาดอะไรให้เรียบร้อยนิดนึงฮะ

สิ่งที่อยากฝาก

ก็อยากเชิญชวนครับ ถ้าเป็นกลุ่มเพื่อน รักสังสรรค์ หรือว่าจะเป็นปาร์ตี้ก็แล้วแต่ ร้านเราเปิดทุกวันฮะ เจ็ดวันเลย ถ้าเป็นที่สาขากาญจนาภิเษก ร้านเราเปิดตั้งแต่ 10 โมงเป็นต้นไปฮะ 10 โมงจนถึงเที่ยงคืน
ถ้าเป็นสาขาที่ราชพฤกษ์ โรบินสัน ราชพฤกษ์ ไลฟ์สไตล์ ก็จะเปิดตั้งแต่ 10 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนครับ
แล้วก็จะมีสาขาใหม่ล่าสุดอีกอันนึงครับ อยู่ในโรงแรมมณเฑียร พระราม 3 ครับ สถานที่ตรงนั้นเป็นวิวริมแม่น้ำครับ (ยังไม่ Pet-friendly) ขอบคุณครับ

เพื่อน ๆ คนไหนที่ชื่นชอบแสงสีและเสียงเพลงดี ๆ กับอาหารแสนอร่อย (อร่อยจริง ไม่จ้อจี้) ที่ Brewave ยินดีต้อนรับทุกคนอย่างเต็มที่! แต่ก่อนที่จะพาเจ้าน้องสัตว์เลี้ยงไป คุณพ่อคุณแม่ต้องแน่ใจก่อนนะว่าเพื่อนรักขนฟูของเราจะยังใจเย็นและนิ่งสงบในสภาพแวดล้อมของร้านอาหารยามค่ำคืนได้จริง ๆ ! และอย่าลืมเช็คกับทางร้านแต่ละสาขาอีกครั้งกับทางเพจของร้านเพื่อความชัวร์ก่อนพาไปด้วยล่ะ!

MyFriend ขอขอบคุณทางร้าน Brewave และคุณไว ที่ต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น แวะเวียนมาพูดคุยถึงเรื่องราวของร้านยามค่ำคืนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่กับเหล่ามนุษย์ แต่ยังรวมถึงเพื่อน ๆ สัตว์เลี้ยงอีกด้วย! นอกเหนือจากนี้ยังมีอาหารอร่อย ๆ ที่ไม่ใช่แค่คำเคลม แต่ยังเป็นเมนูเด็ดประจำร้านแบบล้นโต๊ะ!

สัปดาห์หน้า MyFriend จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับใคร อย่าลืมมาติดตามกัน!

💙 Meet MyFriends! พาทุกคนไปทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ เจ้าของธุรกิจสัตว์เลี้ยง และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายที่พร้อมมาแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้กับชาวเพ็ทเลิฟเวอร์แบบหมดเปลือก!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!