ยิ่งขนเยอะความรับผิดชอบก็ยิ่งแยะ! เพราะเจ้าน้องขนฟูของเราเป็นเพื่อนรักประดับขนฟูฟ่องที่ทำให้มนุษย์หลงรัก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงชื่นชอบการโอบกอดสิ่งมีชีวิตตัวนุ่มเหล่านี้จนถอนตัวไม่ขึ้น! แต่การมีสัตว์เลี้ยงขนหนาอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องนุ่มฟูหัวใจไปเสียหมด ด้วยเส้นขนที่ปกคลุมอยู่ ทำให้เห็บและหมัดสามารถแฝงตัวเข้าไปซ่อนอยู่ที่ผิวหนังของน้อง ๆ ได้อย่างแนบเนียน แถมยังอาจทำให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย! สิ่งมีชีวิตเล็กจิ๋วที่คอยดูดเลือดสัตว์เลี้ยงของเราพวกนี้เป็นอะไรที่น่ารำคาญ ชอบเล่นซ่อนแอบให้รบกวนจิตใจทั้งมนุษย์และหมาแมวของเราอยู่เสมอ

และด้วยความที่เห็บและหมัดนั้นชื่นชอบอากาศร้อนชื้นเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนพักร้อนในฝันของเจ้าพวกนี้ตลอดปี 🔬 ถึงอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ต่างก็พยายามสุดฤทธิ์เพื่อปกป้องเหล่าน้อง ๆ หมาแมวจากเห็บหมัด แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีจัดการกับเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กจิ๋วตัวร้าย เรามาทำความเข้าใจกับ 5 เรื่องเกี่ยวกับเห็บหมัดที่ทุกคนไม่เคยรู้กันก่อน!

ความแตกต่างระหว่างเห็บและหมัด

เห็บและหมัดเป็นเหมือนเพื่อนรักที่หน้าตาคล้ายคลึงกัน ทั้งสองเป็นปรสิตที่จะกินเลือดและต้องการโฮสต์ (Host) เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ โดยเราสามารถแยกเห็บกับหมัดออกจากกันได้ดังนี้

❔ เห็บ: ตัวกลมแบน แต่ใหญ่กว่าหมัด มี 8 ขา และเป็นพาหะนำโรคพยาธิเม็ดเลือด โรคไลม์ และโรคร้ายอื่น ๆ

❓ หมัด: ตัวเรียวเป็นรูปวงรี และขนาดเล็กกว่ามาก มี 6 ขา มีสีออกน้ำตาลแดงหรือดำ เป็นพาหะของพยาธิตัวตืดและปรสิตอื่น ๆ

เรื่องที่ 1: เห็บหมัดมีเฉพาะหน้าฝน 🌧️

ในหลายประเทศที่มีฤดูหลากหลายมากกว่าแค่ “ร้อน” ผู้คนมักจะเชื่อว่าเห็บหมัดนั้นจะอยู่ในหน้าร้อนเท่านั้น เพราะทั้งฝนตกและอากาศอบอุ่น แต่ที่จริงแล้วทั้งสองสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดทั้งปีในหลายสภาพอากาศ ด้วยความที่ทั้งเห็บและหมัดสามารถซ่อนตัวและออกล่าเก่ง ทำให้ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหนก็กระโดดขึ้นตัวสัตว์เลี้ยงของเราได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรระมัดระวังและปกป้องเจ้าน้องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน! แต่ถ้าพูดถึงฤดูที่เห็บหมัดออกมาเริงร่ามากที่สุดก็ตอนหน้าฝนนี่แหละ!

• ปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงยอดฮิตในช่วงฤดูฝน

เรื่องที่ 2: ไอจะขยี้ยูว์ให้แหลกคึ! 🗑️

ในหมู่คนไทยเรามีการส่งต่อความรู้แบบรุ่นสู่รุ่นว่าไม่ควรบี้เห็บหมัด เพราะจะทำให้ไข่ในตัวนั้นฟุ้งกระจายไป แล้วก็เกิดเห็บหมัดเพิ่มขึ้นอีกเป็นกองทัพ! แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ด้วยความที่ไข่ของเห็บหมัดนั้นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พอดิบพอดีถึงจะฟักตัวได้นั่นเอง บางทีที่เขาว่ากันอาจจะเป็นเพราะมันจะเลอะเทอะ เก็บกวาดลำบากมากกว่า แต่ยังไงการบี้เห็บหมัดก็ไม่ใช่ไอเดียที่ดีสักเท่าไหร่ ลองเป็นเก็บใส่ขวดที่มีน้ำแล้วปิดฝาให้สนิทจะดีกว่า

เรื่องที่ 3: หมาแมวเลี้ยงในบ้านไม่ติดเห็บหมัดหรอก 🏡

เห็บหมัดโจมตีทุกสิ่งมีชีวิต แม้ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นจะอยู่แต่บ้านก็ตาม เพราะแม้แต่ปรสิตก็มีหนทางของชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงไม่มาก แต่เจ้าน้องในบ้านก็ยังอาจจะติดเห็บหมัดได้จากที่ติดมากับเสื้อผ้าของเรา หรือจากหน้าต่างที่เปิดค้างเอาไว้ก็เป็นได้ เมื่อเห็บหมัดตามมาถึงจะลงจอดที่พื้นพรมนุ่ม ๆ บนเตียง หรือบนเฟอร์นิเจอร์ รอเวลาให้เหล่าหมาแมวติดบ้านของเราผ่านมาก็กระโจนเข้าใส่แพขนหนาทันที!

เรื่องที่ 4: กำจัดเสียก็จบสิ้น! 🧴

ถึงจะกำจัดเห็บหมัดจากน้อง ๆ หมาแมวของเราได้แล้วก็อย่าเพิ่งดีใจไปทุกคน การที่เราจะแน่ใจได้ว่าเหล่าเห็บหมัดจะไม่มาวุ่นวายกับหมาแมวของเราอีกก็ต้องมีการดูแลรักษาเป็นประจำ โดยการอาบน้ำตกแต่งขนสัตว์เลี้ยง ทำความสะอาดบริเวณบ้านและนอกบ้าน ให้มีแสงสว่างส่องถึงและอากาศถ่ายเทก็จะช่วยได้มากเลยนะ!

เรื่องที่ 5: เห็บหมัดกัดแต่หมาแมว 🐾

จริงที่เห็บหมัดชื่นชอบขนและตัวอุ่น ๆ ของหมาแมวมาก ๆ แต่ที่จริงแล้วมนุษย์ก็ไม่ได้ปลอดภัยเสียทีเดียวหรอกนะ เพราะเห็บหมัดก็กัดคนได้เหมือนกัน! เรียกได้ว่านอกจากจะน่ารำคาญใจและยังคันยุบยิบอีกต่างหาก อีกทั้งยังเป็นอันตรายเพราะเป็นพาหะนำโรคร้ายมาให้มนุษย์ได้อีกด้วย

🛑 วิธีป้องกันและจัดการกับเห็บหมัด 🛑

ไม่ว่าทุกคนจะอาศัยอยู่ที่ไหน บริเวณในเมือง ชนบท ต่างจังหวัด หรือใจกลางเมืองหลวง เห็บและหมัดก็จะหาวิธีเอาตัวรอดได้เสมอ ถึงแม้ว่าพืชพรรณสูง ๆ รกชัฏจะเป็นที่โปรดปรานของทั้งสองจิ๋วตัวร้าย แต่พี่หมาของเราก็ยังอาจจะติดเห็บหรือหมัดมาได้จากการออกไปเดินเล่นข้างนอกในทุก ๆ วัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำตามวิธีดังต่อไปนี้เพื่อป้องกันเจ้าน้องสัตว์เลี้ยงของเราจากเห็บหมัดตัวร้ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ!

หากสัตว์เลี้ยงของทุกคนติดเห็บหรือหมัดอยู่แล้วในตอนนี้ อันดับแรกคือต้องจัดการดึงออกให้เร็วที่สุด! แต่อย่าใช้มื้อตัวเองหยิบจะดีกว่า ให้ใช้แหนบเล็ก ๆ ดึงออก โดยวางแหนบให้ใกล้ผิวหนังของสัตว์เลี้ยงที่สุดและดึงออกมาตรง ๆ อย่าบิดมือไปมาหรือหนีบแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้เห็บหรือหมัดตกใจและปล่อยน้ำลายออกมาใส่เจ้าน้องหมาแมวของเรามากยิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้หวีสำหรับกำจัดเห็บหมัดเพื่อแปรงขนสัตว์เลี้ยงก็ได้ ทิ้งซากเห็บและหมัดที่เอาออกมาได้ลงในน้ำสบู่ร้อนเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าพวกนี้จะไม่มารบกวนเราอีก! หลังจากนั้นก็จับตาดูให้ดีว่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นจะแสดงอาการอะไรที่ร้ายแรงออกมาหรือเปล่า หากมีอาการต้องรีบพาไปหาคุณหมอสัตวแพทย์เลยนะ!

อย่าลืมว่าขั้นตอนแรกที่สำคัญในการปกป้องสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากเห็บและหมัดก็คือความสะอาด รักษาให้พื้นที่อยู่อาศัยและบริเวณโดยรอบมีระเบียบเรียบร้อยและทำความสะอาดได้ง่ายอยู่เสมอ หากรอบบ้านมีสวน ต้องจัดการตัดแต่งให้ไม่รกและคอยดูแล เห็บหมัดจะได้ไม่ไปแอบหลบซ่อนอยู่ตามหญ้าสูง ๆ นอกจากนี้การหาวิธีรักษาหรือการดูแลอื่น ๆ หรือหาผลิตภัณฑ์สูตรกำจัดเห็บหมัดก็สามารถช่วยป้องกันได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ปลอกคอ หรือแม้แต่ขนมก็มี (มันเป็นยานะ)!

• 🔍🌧️ ปกป้องเจ้าน้องจากเหล่าเห็บหมัดด้วยทิปส์ง่าย ๆ!

บทความนี้ผ่านการตรวจสอบเนื้อหาโดยสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUVET)

👩‍⚕️👨‍⚕️ MyFriend’s Healthcare บทความสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการตรวจสอบเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงจากทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องสุขภาพกายและใจของน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงที่สมบูรณ์แข็งแรง!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!

References

• 5 Super-Common Flea and Tick Myths—And Why You’ve Got to Stop Believing Them | BeChewy
• สี่ขาสาระ: รวมเรื่องเข้าใจผิดของ “เห็บ” บี้แล้วแพร่พันธุ์ไปตามพื้นจริงหรือ? | BeCommon
• เห็บหมัดภัยเงียบสำหรับสุนัขในหน้าฝน | Thonglor Pet 
• ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการบี้เห็บในสุนัข | KaPook!