ลำนำแห่งคอร์กี้ – ตำนานอภินิหารคอร์กี้และเหล่านางฟ้า!

เหล่าหมาคอร์กี้ขาสั้นจุ๊ดกับหน้าตาที่จะว่าดูดีก็ดูดี แต่จะว่าตลกก็ตลก เป็นสิ่งที่ตกหัวใจของคนทั่วไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนรักหมาหรือไม่ก็ตาม การที่พวกเราตกหลุมรักกับหมาสายพันธุ์นี้ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะแม้กระทั่งบุคคลสำคัญอย่างพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เองก็มีความคลั่งไคล้ให้กับเจ้าน้องคอร์กี้มากไม่แพ้กัน! แต่ทุกคนรู้มั้ยว่าน้องหมาหน้าตากวนโอ๊ยนี้ ที่จริงแล้วมีที่มายาวนานและตำนานเบื้องหลังแบบมหากาพย์! เรามาผจญภัยสู่อาณาจักรเวทมนตร์กับตำนานอภินิหารเวลช์คอร์กี้ไปด้วยกัน!

แต่ก่อนที่จะเริ่มต้น เรามาทำความรู้จักกับน้องหมาเพมโบรคเวลช์คอร์กี้ (Pembroke Welsh Corgi) กันอีกสักหน่อย เจ้าน้องไซส์กะทัดรัดพันธุ์นี้มีทั้งความน่ารักน่าเอ็นดูและความแข็งแกร่งอัดแน่นอยู่ในตัวเดียว! เชื่อมั้ยว่าน้อง ๆ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์หมาลากเลื่อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เรียกว่าแรงเยอะจนเหมือนเป็นหมาใหญ่ในไซส์ขาสั้นก็ว่าได้ อย่างที่ใคร ๆ เขาก็พูดกัน ว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็มาในไซส์มินิทั้งนั้นแหละ! ด้วยขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากทำให้คอร์กี้เป็นหมาที่คล่องแคล่วว่องไว และเหมาะกับการทำงานเป็นหมาต้อนแกะเอามาก ๆ เลยล่ะ 🐑

🧚 คอร์กี้และเหล่านางฟ้า

จากตำนานนิทานพื้นบ้านของชาวเวลช์ ปีกของเหล่านางฟ้า (แฟรี่) นั้นไม่แข็งแรงพอที่จะบินได้ในระยะไกล เป็นเหตุให้ต้องใช้​​ “สุนัขของคนแคระ” มาเป็นยานพาหนะ! เจ้าหมาขาสั้นของเราเลยมีหน้าที่ลากรถของแฟรี่ และเดินทางไปร่วมต่อสู้ด้วยเช่นเดียวกัน หมาคอร์กี้เป็นเหมือนม้าสำหรับเหล่าภูติจิ๋วแห่งเทพนิยายนั่นเอง! เมื่อไหร่ก็ตามที่น้อง ๆ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แฟรี่ก็จะส่งคอร์กี้ไปเล่นและดูแลเด็ก

เด็ก ๆ เป็นคนค้นพบคอร์กี้! 🐕

มีเรื่องเล่าและตำนานมากมายที่ผสมปนเปกัน โดยเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่เล่ากันมาแบบปากต่อปาก ว่ากันว่า “Wee Folk” หรือที่รู้จักกันในชื่อแฟรี่ เอลฟ์ หรือภูตจิ๋ว ได้ส่งคอร์กี้สองตัวไปเป็นของขวัญให้กับเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่ในป่าและบังเอิญเจอเข้ากับ “หมาจิ้งจอก” หน้าตาตลก ผ่านไปสักพักจึงได้พาหมาทั้งสองตัวกลับบ้าน ก่อนที่จะคุณพ่อของเด็กทั้งสองจะบอกว่าหมาเตี้ยคู่นี้ แท้จริงแล้วเป็นของขวัญของเหล่าแฟรี่! ที่รู้แบบนี้ก็เพราะคุณพ่อมองเห็นร่องรอยของอานแฟรี่ที่เคยเทียมอยู่บนหลังหมาทั้งสองตัวนั่นเอง

ของขวัญจากราชาและราชินี 👑

อีกตำนานที่เกี่ยวข้องกับราชาและราชินีของเหล่าแฟรี่ที่มีความเห็นอกเห็นใจให้กับเหล่ามนุษย์ที่มีชีวิตอันแสนน่าเศร้า ทั้งสองมองเห็นการทำงานอย่างหนักเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ในแต่ละวันของผู้คนอยู่ตลอดและได้พบกับครอบครัวที่น่าสงสาร จนวันหนึ่ง ราชาแฟรี่ได้ตกลงจากหลังคอร์กี้ ราชินีเห็นจึงกระโดดลงมาช่วย ทิ้งราชรถให้วิ่งต่อไป หลังจากที่ทั้งสองตั้งตัวได้อีกครั้ง ราชาจึงจะออกคำสั่งให้ตามหาคอร์กี้ทั่วทั้งแผ่นดิน แต่ราชินีก็ได้ห้ามไว้ และบอกว่า “ไม่จำเป็น คอร์กี้จะตามหามนุษย์เดินดินที่ต้องการพวกมันมากกว่าพวกเราเอง” เมื่อกล่าวจบลงก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เหล่าคอร์กี้ได้ไปพบกับครอบครัวที่น่าสงสารดังกล่าว ซึ่งพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นของขวัญจากแฟรี่ โดยดูจากรอยอานแฟรี่ที่เทียมอยู่บนหลังเช่นเดียวกัน

ศึกแห่งเผ่าทิลวิธเท็กและกวิลเลียน ⚔️

ตำนานเรื่องสุดท้ายนี้เกิดขึ้นเมื่อมีศึกสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ของนางฟ้าแฟรี่อย่างเผ่าทิลวิธเท็กและเผ่ากวิลเลียน โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการต่อสู้กันในศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่อาณาจักรเวทมนตร์เคยมีมา โดยเจ้าหมาคอร์กี้เองก็ถูกใช้เป็นยานพาหนะในยามต่อสู้ ถึงกระนั้นเหล่าแฟรี่ทั้งหลายก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการต่อสู้ในครั้งนั้น เมื่อถึงพิธีศพที่จัดให้กับเหล่าผู้กล้าก็มีเด็กสองคนที่หลงเข้ามาในป่าและมาเจอกับพิธีศพของแฟรี่เข้า เหล่าแฟรี่จึงได้เสนอคอร์กี้สองตัวที่เคยถูกใช้ในการศึกสงครามให้กับเด็ก ๆ เป็นของขวัญเพื่อเป็นเกียรติแก่ผองแฟรี่ผู้วายชมน์

❤️ จุดเริ่มต้นของคอร์กี้กับมนุษย์! 

ในช่วงปี 1940-1950 คุณแอนน์ บิดเดิลคอมบ์ (Anne Biddlecombe) แห่งดอร์เซ็ต ประเทศอังกฤษ ได้ตีพิมพ์บทกลอนเรื่อง “Corgi Fantasy” ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเล่าถึงเรื่องราวของน้องหมาสายพันธุ์เพมโบรคเวลช์คอร์กี้ (Pembroke Welsh Corgi) ตั้งแต่จุดเริ่มต้น บทบาทในอาณาจักรแห่งเวทมนตร์ ไปจนถึงวันที่เจ้าน้องเริ่มก้าวเท้าสั้นปุ๊กปิ๊กเข้ามาอยู่ในใจมนุษย์! โดยในบทกวีได้บรรยายไว้ว่า

“เล่นกันเหมือนลูกหมาจิ้งจอก

ทองอร่ามงามสีสันและเส้นขน

เงาขลับมันราวผ้าแพร

ตัวสั้นตรงพร้อมขาหน้าอ้วนป้อม

ศีรษะคล้ายหมาป่า

แต่ดวงตาใจดีและอ่อนโยน

เจ้าหมาแคระมีลำตัวยาว

ไร้หางข้างท้ายเมื่อเหลียวหลัง”

ในบทกวีของแอนน์ คอร์กี้เป็นของขวัญจากเหล่าแฟรี่ และถูกสร้างมาเพื่อเป็น “ผู้เยียวยาเหล่าแฟรี่ ผู้ไล่ต้อนปศุสัตว์ เทียมลากรถม้า และเพื่อนเล่นของเด็ก ๆ”

📸 Photo Credits: Ekaterina Bolovtso from Pexels

หากทุกคนลองมองดูที่ลักษณะของน้องคอร์กี้ จะเห็นได้ว่ามีสีขนเข้มเป็นพิเศษที่บริเวณไหล่ สีขนเข้มตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าที่เชื่อกันว่า เป็นร่องรอยของอานเทียมคอร์กี้ของเหล่าแฟรี่! ทำให้ขนตรงนี้เรียกว่าเป็น “อานแฟรี่” (Fairy Saddle) นั่นเอง

เรื่องราวตำนานทั้งหมดที่เกี่ยวกับคอร์กี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็ก ๆ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมน้อง ๆ ถึงเหมาะกับการเป็นสุนัขสำหรับครอบครัว ด้วยความฉลาดเฉลียวและขี้เล่นเป็นธรรมชาติ ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากต้อนรับเจ้าน้องคอร์กี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว!

เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าเอ็นดูกับเรื่องราวตำนานของชาวเวลช์และเหล่าแฟรี่นี้ไม่ได้ได้ใจแค่พวกเราชาวอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ด้วยเช่นเดียวกัน! นอกเหนือจากความดุดันในการเป็นส่วนหนึ่งของกองรบนางฟ้า คอร์กี้ยังได้ชื่อในเรื่องของความซื่อสัตว์ น่ารัก และปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดีอีกด้วย ทำให้เจ้าเพื่อนตัวน้อยที่ขาสั้นแต่ตัวยาวนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานและความขี้อ้อนให้กับมนุษย์คนโปรด (และเหล่าแฟรี่) อยู่เสมอเลยล่ะ! ทุกคนเคยรู้เรื่องราวเหล่านี้เกี่ยวกับคอร์กี้กันมาบ้างมั้ย? แล้วสุนัขพันธุ์โปรดของเพื่อน ๆ คือพันธุ์ไหน? มาเล่าให้เราฟังกัน!


🍿 MyFriend’s Pop pet แหล่งรวมความสนุกสไตล์คุณพ่อคุณแม่และสัตว์เลี้ยง! ความบันเทิงในรูปแบบเจ้าก้อนจากทั่วทุกมุมโลก ทุกวงการ ไม่มีตกเทรนด์!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!

References

Author

Enjoyed the article? Share with a Friend!