วีแกนนิซึ่ม (Veganism) เป็นการรับประทานอาหารมังสวิรัติแบบไม่รับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด ซึ่งจะมีความเคร่งครัดมากกว่าการรับประทานมังสวิรัติทั่วไป ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอยากให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองเลิกกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะมีเหตุผลที่ต่างกันออกไป แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นไปเพื่อลดร่องรอยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Footprint) ไม่สนับสนุนกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ต่าง ๆ และเพื่อสุขภาพนั่นเอง 🍃
จากการสำรวจของวิทยาลัยสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกวลฟ์ ประเทศแคนาดา (University of Guelph’s Veterinary College, Canada) ในปี 2019 มีคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงถึง 1 ใน 3 จากผู้เข้ารับการสำรวจทั้งหมด 3,600 คนทั่วโลกที่สนใจเปลี่ยนให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองเป็นวีแกน โดยกว่า 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นวีแกนก็ได้เปลี่ยนน้อง ๆ ที่บ้านแล้ว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว “สัตว์เลี้ยงสามารถเป็นวีแกนได้จริงหรือไม่?” เป็นคำถามที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ระหว่างคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนแนวคิดการเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงให้เป็นวีแกน
ตามธรรมชาติแล้ว สัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างสุนัขและแมวจำเป็นต้องได้รับโปรตีนในปริมาณมากเพื่อให้ร่างกายอยู่ได้ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
🐶 สุนัขเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ การไม่ให้บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลยจึงต้องปรึกษาและวางแผนโภชนาการให้ครบถ้วนกับสัตวแพทย์ โดยแผนการกินของสุนัขแต่ละตัวก็จะต่างกันไปตามสุขภาพร่างกาย สายพันธุ์ เพศ และอายุ
🐱 ส่วนแมวนั้นเป็นสัตว์กินเนื้อ ร่างกายไม่สามารถย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ดีเท่าโปรตีน ทำให้แมวต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากกว่า โดยเฉพาะทอรีน (Taurine) กรดอะมิโนจำเป็นที่จะพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น มีส่วนสำคัญมากกับการมองเห็น การเจริญเติบโต และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่ของแมว
แม้จะมีแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบวีแกนเกิดขึ้นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูง และมีการเติมสารอาหารสังเคราะห์เข้าไปเพื่อให้โภชนาการครบถ้วน
ทางเลือกหนึ่งที่มีความน่าสนใจ นั่นคืออาหารที่ผลิตจากเนื้อเยื่อที่เพาะเลี้ยงในห้องแล็บ โดยไม่ใช้เซรั่มที่ได้จากตัวอ่อนลูกวัว (Fetal Bovine Serum) ซึ่งจะสามารถให้สารอาหารกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างครบถ้วน และยังไม่ผิดต่อจริยธรรมอีกด้วย แต่ก็มีราคาที่สูงมาก หาได้ยาก และในระยะยาวอาจจะสร้างคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงธรรมดา
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกสำหรับคุณพ่อคุณแม่สายวีแกนที่ไม่ได้เคร่งมาก ในช่วงหลายปีมานี้ อาหารสัตว์จากแมลงที่มีโปรตีนสูงก็เริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นทางเลือกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเนื้อสัตว์อื่น ๆ แต่เพราะเทคโนโลยีในการทำฟาร์มแมลงเพื่อผลิตอาหารสัตว์นั้นยังใหม่มากและผลิตได้จำนวนน้อย อาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากแมลงจึงมีราคาสูงเช่นกัน
การให้อาหารสัตว์เลี้ยงโดยคำนึงถึงประเด็นทางด้านศีลธรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ในขณะเดียวกัน สัตว์เลี้ยงของคุณพ่อคุณแม่เองก็มีโภชนาการที่ธรรมชาติสร้างมาให้บริโภคเพื่อที่จะอยู่รอดอย่างมีสุขภาพดี การตัดสินใจปรับเปลี่ยนอาหารของสัตว์เลี้ยงนั้นจึงควรอยู่บนพื้นฐานของคุณภาพชีวิตที่ดีของน้อง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ให้น้อง ๆ ได้มีสุขภาพทั้งกายและใจที่ดี รวมถึงเข้ารับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ก่อนการตัดสินใจด้วยนะ 🐾
รู้หรือไม่? เศษชิ้นเนื้อและเครื่องในที่เหลือ (By-product) จากการผลิตเนื้อสัตว์สำหรับมนุษย์ เป็นส่วนที่จะต้องถูกทิ้งไปเป็นขยะ (Food Waste) การผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงจึงเป็นเหมือนตัวช่วยในการกำจัดขยะตรงส่วนนี้ไป
📰 MyFriend’s Paw report ข่าวสารและเทรนด์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่จริงจัง จริงใจ และให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคุณพ่อคุณแม่น้อง ๆ รู้เท่าทันสิ่งใหม่ในวงการสัตว์เลี้ยงแบบรอบด้าน!
🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!
SUBSCRIBE &
STAY UPDATED
© 2023 MyFriend by Thai Innovative Technologies
© 2023 MyFriend by Thai Innovative Technologies